แนวโน้มบุหรี่ไฟฟ้า 2024

แนวโน้มบุหรี่ไฟฟ้า ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน นับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แบตเตอรี่เพื่อสร้างความร้อนและไอน้ำที่ประกอบด้วยสารต่าง ๆ เช่น นิโคติน (Nicotine), โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol), กลีเซอรีน (Glycerine), สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring) และน้ำ ความแตกต่างของบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่ทั่วไปคือ การใช้งานที่ไม่เผาไหม้เหมือนบุหรี่ธรรมดาที่ส่งออกควัน ซึ่งทำให้ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันดินหรือสารพิษอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งและโรคทางเดินหายใจที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ปกติ

แนวโน้มนักสูบเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

การใช้งานบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งมีผู้ที่เคยสูบบุหรี่แบบธรรมดาและผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นการสูบบุหรี่เข้าสู่การใช้บุหรี่ไฟฟ้า ในขณะที่สถิติของการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชนในประเทศสหรัฐฯ พบว่าในช่วงหลังจากปี 2557 มี แนวโน้มบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในประเทศไทยการขายหรือนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ยากต่อการเก็บข้อมูลทางสถิติ

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่

มีกลุ่มคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกสูบบุหรี่ การศึกษาจากชาวอเมริกันในแคลิฟอร์เนียพบว่ามีแนวโน้มที่ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะลดปริมาณการสูบหรือเลิกสูบบุหรี่ได้ แต่การวิจัยยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าต่อการเลิกสูบบุหรี่อย่างเป็นทางการ

ส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้าประกอบด้วยแบตเตอรี่ที่ให้พลังงานในการทำงาน ตัวทำให้เกิดไอและความร้อน และตลับเก็บน้ำยาที่มีสารสำคัญที่สำคัญมากคือน้ำยา E-Liquid หรือ E-Juice ซึ่งประกอบด้วยสารต่าง ๆ เช่น นิโคติน, โพรไพลีนไกลคอล, และสารอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อร่างกายของผู้ใช้

สารสำคัญในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า E-Liquid

– นิโคติน: เป็นสารที่เสพติดที่พบในบุหรี่ไฟฟ้าและสามารถกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง เสพติดการใช้บุหรี่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจ

– โพรไพลีนไกลคอล: เป็นสารที่ใช้ในการสร้างไอหรือหมอกและมีความปลอดภัยในอาหารและยา แต่สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองในบางบุคคล

การทดสอบสารเคมีในบุหรี่ไฟฟ้าความเป็นจริงและความเสี่ยง

การบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน แต่ความรู้ที่เกี่ยวกับสารเคมีที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้ายังมีข้อมูลที่ไม่ชัดเจนอยู่บ้าง เช่น กลีเซอรีนที่มีในบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสารที่ถือว่าปลอดภัยตามมาตรฐาน แต่ผลกระทบของการสูบแบบนี้ต่อร่างกายยังไม่ชัดเจน

เรามาทำความรู้จักกับบุหรี่ไฟฟ้าในหลากหลายรูปแบบกันดีกว่า มี Cigalike ที่คล้ายกับบุหรี่ปกติทั่วไป และมี eGos และ Mods ที่มีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกัน แต่ทุกตัวนั้นเลือกใช้ไอที่ไม่มีควันจากการเผาไหม้ เมื่อเทียบกับบุหรี่ปกติ ทำให้ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิด

แต่การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีความเสี่ยงเอาไว้ด้วย สารเคมีบางชนิดที่พบใน E-Liquid อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น สารไนโตรซามีนและฟอร์มาลดีไฮด์ ที่มีโอกาสเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหรือสร้างผลข้างเคียงทางร่างกายได้

กระทรวงสาธารณสุขในประเทศอังกฤษระบุว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยสูงถึง 95% และมีประสิทธิภาพในการช่วยเลิกการสูบบุหรี่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิจัยที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงในระยะยาวของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

สำหรับประเทศไทยที่บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในไม่ถึง 10 ปี ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบทางสุขภาพยังมีข้อมูลที่จำกัด แต่นักวิจัยก็พบว่าน้ำยา E-Liquid มีโลหะหนักและสารพิษที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในระดับสูง

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ปกติ แต่ก็ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยให้ความสำคัญกับข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันและความเป็นไปได้ต่อสุขภาพของตนเองด้วย