ข้อดีที่ควรรู้ก่อนใช้บุหรี่ไฟฟ้า

ข้อดีที่ควรรู้ก่อนใช้บุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แบตเตอรี่เพื่อสร้างความร้อนและไอน้ำโดยผ่านกระบวนการที่รวมองค์ประกอบต่าง ๆ ด้วยกัน อาทิเช่น นิโคติน (Nicotine), โพรไพลีนไกลคอล (Propylene Glycol), กลีเซอรีน (Glycerine), สารแต่งกลิ่นและรส (Flavoring), และน้ำ ขณะที่เครื่องถูกเปิดใช้งาน มันจะแสดงไฟสีแดงพร้อมกับการทำงานของแบตเตอรี่ การทำงานนี้ทำให้เกิดความร้อนและน้ำยาภายในอุปกรณ์ระเหยออกมาในรูปของควัน

เมื่อคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไปในร่างกาย พวกเขาจะได้รับนิโคตินก่อนที่มันจะถูกพ่นออกมา สิ่งนี้ไม่มีควันที่เกิดจากการเผาไหม้เหมือนบุหรี่ทั่วไป ดังนั้น บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งและโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากการสูบบุหรี่ทั่วไปโดยเฉพาะ นั่นหมายความว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการลดควันและสารพิษที่ร้ายแรงต่อสุขภาพในการสูบบุหรี่ออกจากร่างกายของพวกเขาโดยไม่ต้องสละความพึงพอใจในความพึงพอใจของบุหรี่.

บุหรี่ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมและมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นทั้งผู้ที่เคยสูบบุหรี่แบบปกติทั่วไปและผู้ที่เริ่มต้นหรือทดลองสูบบุหรี่ สถิติการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของเยาวชน (National Youth Tobacco Survey) พบว่าในกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปลาย การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 4.5 เป็นร้อยละ 13 และในกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมต้น เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวภายใน 1 ปี จากข้อมูลประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2557

อีกกลุ่มคนที่พบว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าคือผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ การวิจัยในรัฐแคลิฟอร์เนียแสดงว่าร้อยละ 60 ของกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกัน 1,000 คนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเวลา 1 ปี มีแนวโน้มที่จะเลิกสูบบุหรี่และลดปริมาณการสูบ อย่างไรก็ตาม Dr. Wael Al-Delaimy อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัวและสาธารณสุข คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความเห็นว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจไม่ได้ช่วยให้เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้ สำคัญอย่างหนึ่งคือปริมาณนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการเสพติด เช่นเดียวกับที่พบในบุหรี่ปกติ ดังนั้นเรื่องนี้ยังต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต

ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้า

ประเภทของบุหรี่ไฟฟ้ามีหลากหลายรูปแบบ แต่สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบหลัก คือ Cigalike, eGos, และ Mods ดังนี้

1. Cigalike (บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 1): รูปลักษณ์ภายนอกของ Cigalike คล้ายกับบุหรี่ปกติทั่วไปทั้งในรูปทรงและขนาด แต่ภายในมีอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดไอและความร้อน เหมือนบุหรี่แบบเดิม บางรุ่นใช้แค่แบตเตอรี่และพ็อด (pod) ที่ใส่ E-Liquid และแทนที่ได้ อาจมีรุ่นที่มีการแสดงสถานะ LED เมื่อสูบ

2. eGos (บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 2): รูปแบบ eGos คล้ายบุหรี่ปกติทั่วไปเช่นกัน แต่มีขนาดใหญ่กว่าหรืออาจมีรูปทรงที่แตกต่าง ส่วนสำคัญคือมีถังที่สามารถถอดออกและเติม E-Liquid หรือ E-Juice ได้ โดยสามารถเลือกระดับนิโคติน รส และกลิ่นต่าง ๆ ตามความชอบของผู้ใช้

3. Mods (บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 3): รูปแบบ Mods คล้าย eGos แต่มีขนาดใหญ่กว่าและมีความสามารถในการปรับแรงดันไฟฟ้า ขนาดของตัวที่ทำให้เกิดไอและความร้อน รวมถึงขนาดและปริมาณของ E-Liquid หรือ E-Juice ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่สนใจและรู้จักการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างละเอียด

4. Close Pod (บุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบที่ 4):Close Pod พอดบุหรี่ไฟฟ้าแบบปิด เป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่มักจะเห็นว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการที่จะเลิกบุหรี่จริง เป็นบุหรี่ระบบปิดที่มีการใช้งานรูปแบบเดียวกับ Pod System แต่สิ่งที่ต่างกันคือ Close Pod จะเป็นบุหรี่ไฟฟ้ารูปทรงแท่ง และไม่สามารถเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ แต่จะเป็นแบบเปลี่ยนน้ำยาพร้อมหัวพอดแทน ซึ่งก็จะมีหัวพอดพร้อมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาด ฉะนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า Close Pod นั่นเอง

ซึ่งประเภทที่ 4 แบบ Close Pod System เป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน แต่ก็แล้วแต่รสนิยมของเพื่อนๆด้วย ว่าชอบแบบไหน บุหรี่ไฟฟ้าที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความต้องการและประสบการณ์ที่เพื่อนๆต้องการจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง

ข้อดีของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า

1. ไม่มีควันจากการเผาไหม้: บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้เหมือนในบุหรี่ปกติทั่วไป ทำให้ไม่มีควันที่สร้างสิ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและสิ่งแวดล้อม.

2. ไม่มีสารพิษที่มีอันตราย: การสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหมายความว่าไม่มีการปลดปล่อยสารพิษอันตรายต่าง ๆ เช่น น้ำมันดินหรือทาร์ (Tar) และคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ที่เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น มะเร็งปอดและโรคหัวใจ.

3. ลดความเสี่ยง: การสำรวจข้อมูลในประเทศอังกฤษได้แสดงให้เห็นว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้บุหรี่ปกติทั่วไปถึง 95% และมีความประสิทธิภาพในการช่วยให้เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้.

4. ปรับความเข้มข้นของนิโคตินได้: ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถปรับระดับนิโคตินใน E-Liquid หรือ E-Juice ตามความต้องการของตนเอง ทำให้เป็นเครื่องมือช่วยในกระบวนการลดความเครียดจากนิโคติน.

ข้อเสียของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า

1. มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความปลอดภัย: ยังไม่มีข้อมูลวิจัยที่ชัดเจนเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในระยะยาว ซึ่งอาจมีผลกระทบที่ยากจะรู้ล่วงหน้าต่อสุขภาพ.

2. ความเสี่ยงจากการใช้อุปกรณ์ไม่มาตรฐาน: การใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีมาตรฐานหรือไม่คุ้มค่าอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับนิโคตินเกินขนาดหรือมีสารเสพติดชนิดอื่นที่ไม่ปลอดภัย.

3. ความเสี่ยงจากนิโคติน: นิโคตินยังคงเป็นสารเสพติดที่มีผลกระทบต่อร่างกาย เช่น กระตุ้นสมอง, กระตุ้นหัวใจ, และส่งผลต่อระบบหัวใจและเส้นเลือด.

4. ความเสี่ยงจากสารพิษ: การตรวจพบสารพิษใน E-Liquid หรือ E-Juice อาจเป็นไปได้ และอาจมีสารที่มีผลกระทบต่อสุขภาพในระดับที่ไม่ปลอดภัย.

5. ความเสี่ยงสำหรับเยาวชน: บุหรี่ไฟฟ้าอาจกลายเป็นช่องทางในการเริ่มต้นการสูบบุหรี่แบบปกติสำหรับเยาวชนที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน.

6. ข้อมูลไม่ครบถ้วน: การวิจัยและการรับรองของบุหรี่ไฟฟ้ายังอยู่ในระหว่างการศึกษาและพัฒนา ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัย ยังรับรองไม่ได้ถึง 100%

สรุป

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าแตกต่างจากการใช้บุหรี่ปกติทั่วไปในทุกวันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากไม่มีการเผาไหม้สารเคมีและไม่มีควันที่สร้างสิ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและสิ่งแวดล้อม เป็นไปได้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้บุหรี่ปกติทั่วไป

อย่างไรก็ตาม, ความปลอดภัยของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับมาตรฐานและคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ หากอุปกรณ์ไม่ได้รับการทดสอบและไม่มีมาตรฐานที่เข้มงวด อาจทำให้ผู้ใช้ได้รับปริมาณนิโคตินเกินขนาดหรือมีสารเสพติดชนิดอื่นที่ไม่ปลอดภัยร่วมกับนิโคตินเหลว นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เยาวชนที่ไม่เคยสูบบุหรี่อาจเริ่มต้นใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน ซึ่งอาจนำไปสู่การสูบบุหรี่ปกติทั่วไปในอนาคต

นอกจากนี้ การเก็บรักษานิโคตินเหลวในบรรจุภัณฑ์หากไม่ถูกต้องหรือเก็บไว้นานอาจทำให้เชื้อราหรือเชื้อโรคก่อตัวขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้สูบได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายในขณะใช้บุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้น การรักษาและการเก็บรักษานิโคตินเหลวเป็นสิ่งสำคัญ

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะต้องพิจารณาอย่างระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น และควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หากต้องการข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและผลกระทบต่อสุขภาพ.